การเรียนรู้จาก Role Model (1)

ใครๆก็รู้ว่าลูกปูย่อมต้องเดินตามแม่ปู 

ใครๆก็รู้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

ทุกคนรู้ดีว่า Good (Positive) Role Model สำคัญมากในวงการแพทยศาสตรศึกษา และ ทุกคนรู้แต่ไม่ค่อยกล้าพูดว่า Anti (Negative) Role Model กำลังส่งผลอย่างมากต่อนักศึกษาแพทย์รุ่นใหม่ๆของเรา

คำถามก็คือ เราเรียนอะไรได้บ้างจาก Role Model ที่ดี ตามหลักวิชาการเเล้วเค้าเรียนรู้จาก Role model กันเรียนอย่างไร เเละเรียนไปเพื่ออะไร? เพราะขณะที่นักศึกษาเเพทย์ตามราวน์อาจารย์เเพทย์ ขณะที่อาจารย์เเพทย์กำลังสอนนักศึกษาในสถานที่ต่างๆอยู่นั้น เราทราบดีว่านักศึกษา observe เรียนรู้ หรือ ลอกเเบบอะไรจากอาจารย์ไปเเล้วอย่างมากมาย



Passi V เเละคณะสรุป 6 สิ่งอย่างที่นักศึกษาเเพทย์มักจะเรียนรู้จาก role model ซึ่งทั้งหมดได้มาจากงานวิจัยที่ Passi เเละคณะได้จัดทำมาเป็นเวลานาน  ทำให้เราได้องค์ความรู้ที่ตกผลึก สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

ข้อสรุป 6 ประการจากงานวิจัยของ Passi และคณะ ที่นักศึกษาผู้เป็น role modelee จะเรียนรู้จากอาจารย์หรือเเพทย์รุ่นพี่ role modeler มีดังนี้


1.Clinical Expertise

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อนักศึกษาแพทย์ได้ไปอยู่กับรุ่นพี่หรืออาจารย์แพทย์ที่เป็น  role modeler นั้น สักระยะเวลาหนึ่งจะต้องได้รับอิทธิพลการดูแลคนไข้ ความรู้ความสามารถของอาจารย์แพทย์ผู้นั้น  ไม่มากก็น้อย คำว่า clinical expertise ในที่นี้ไม่ได้หมายถึง เพียงแค่การที่เป็นผู้เชี่ยวชาญลงลึกในแต่ละสาขาวิชาเท่านั้น แต่หมายถึงกลุ่มอาจารย์ role modeler ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลคนไข้แบบองค์รวม ที่สามารถดูแลคนไข้ในชุมชนในสังคมได้ดีด้วย 


2. Relationship with patients

ความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไข้เป็นสิ่งที่นักศึกษาแพทย์สามารถสัมผัส เเละเลียนแบบจากอาจารย์แพทย์ หรือแพทย์รุ่นพี่ได้

3. Relationship with colleagues

ความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็นคุณพยาบาล เจ้าหน้าที่ห้อง lab หรือแม้กระทั่งเวรเปล คนงาน การสื่อสาร ความสัมพันธ์เหล่านี้ เป็นสิ่งที่เหล่า role modelee เฝ้ามอง role modeler อยู่เช่นเดียวกัน

4. Relationship with students

ความสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนนักศึกษา ทั้งโดยตรงกับตัว role modeler และทางอ้อมที่แสดงกับเพื่อนๆ ก็ทำให้เกิดความประทับใจ และนำพามาซึ่งการอยากลอกเลียนแบบ role modeler ด้วย

5. Personality

บุคลิกภาพส่วนตัวของอาจารย์แพทย์ หรือแพทย์รุ่นพี่คนนั้น ซึ่งอาจจะแสดงออกมาในช่วงของการตัดสินใจ ในช่วงของการรับความกดดันต่างๆ แสดงถึงความฉุนเฉียว หรือความใจเย็น ความใจกว้าง หรือการคิดที่รอบคอบ สิ่งเหล่านี้แสดงออกมาได้ตลอดเวลาและเป็นสิ่งที่นักศึกษาแพทย์พร้อมที่จะลอกเลียนแบบอยู่เสมอ

6. Inspirational

การเป็นผู้ที่ให้แรงบันดาลใจ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่อาจจะไม่ได้มีอยู่ในเเพทย์ทุกคนที่เป็นต้นแบบ แต่เป็นสิ่งที่ได้รับการคาดหวัง ในการเรียนรู้กับ role model เพราะการที่นักศึกษาแพทย์ได้อยู่กับอาจารย์แพทย์หรือแพทย์รุ่นพี่ ผู้ที่มีคุณสมบัติเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจได้ดีนั้น ย่อมต้องส่งอิทธิพลกับนักศึกษาแพทย์ด้วยไม่มากก็น้อย

 ทั้งหมดข้างต้นคือลักษณะ 6 ประการที่ Passi และคณะได้สรุปจากงานวิจัย ว่าเป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักเมื่อพูดถึงเรื่อง role modeling เพราะ เป็น 6 สิ่งอย่างที่นักเรียนจะเฝ้ามอง และเรียนรู้ลอกแบบจากอาจารย์แพทย์ แต่การเรียนรู้นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร เกิดไปเพื่ออะไร เเละมีกระบวนการใดที่เราควรจะต้องจัดให้ เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้จาก role model ให้เกิดขึ้นอย่างเหมาะสมหรือไม่นั้น จะกล่าวถึงในตอนต่อไป ซึ่งว่าด้วย phase ต่างๆ ของการเรียนรู้จาก role model








 CR:

1.Passi V, Johnson N. The hidden process of positive doctor role modelling. Med Teach. 2016 Jul;38(7):700-7. doi: 10.3109/0142159X.2015.1087482. 
2.http://myregenmed.com/wp-content/uploads/2016/02/020116_FB-Blog_6-10-1.jpg
3.https://i0.wp.com/i.quoteaddicts.com/media/quotes/64/3191257-quotes-about-positive-role-models.jpg?resize=225%2C291
4.http://campuslinklive.org/wp-content/uploads/2015/02/rolemodelling.jpg



ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม