สบพช 2560: องค์กรเเนวร่วมเเก้ไขปัญหา Inequity การศึกษาด้านเเพทย์ ของประเทศไทย
เนื่องด้วยวาระขึ้นปีใหม่ 2560 น่าจะถือเป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้เเลกเปลี่ยนเรื่องดีงามที่จะเกิดขึ้นในปีใหม่ปีนี้
ก็คงเหมือนบริษัทห้างร้านที่ถือโอกาสช่วงเปลี่ยนปีในการทบทวนองค์กรตัวเอง เเละหากลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรให้ดีขึ้นในปีต่อไป
ในต้นปี 2560 นี้ จึงขออนุญาตเเบ่งปันข้อมูล บทบาทเเละผลงานคร่าวๆของสำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (สบพช) ในช่วง 22 ปี ที่ผ่านมา เพื่อให้ได้เกิดการเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ เเละข้อเเนะนำในการพัฒนาสบพช ต่อไปในอนาคต ในฐานะสบพชเป็นเเฟนพันธุ์เเท้ เเนวร่วมการลดความเหลือ่มลำ้ ทางการศึกษา เเละการบริการทางการเเพทย์ของประเทศไทย
สบพช ถูกจัดตั้งขึ้นตามมติครม. เมื่อปีพศ. 2537 เนื่องจากได้มีความร่วมมือในการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท หรือโครงการ CPIRD ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข จึงจำเป็นจะต้องมีหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ประสานงานด้านต่างๆ รวมทั้งบริหารจัดการงบประมาณที่จะต้องส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 2 กระทรวง
โครงการ CPIRD เริ่มรับนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2538 จำนวน 8 คน โดยคู่ความร่วมมือแรกคือ รพศ. ขอนแก่นและมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันมีบัณฑิตที่จบในนามโครงการความร่วมมือนี้ทั้งสิ้น 16 รุ่น รวม 6,955 คน โดยมีแผนการรับนักศึกษาในปี 2560 อีกจำนวน 1,131 คน คิดเป็นร้อยละ 36.2 ของการรับนักศึกษาแพทย์ทั้งประเทศ ก่อนที่จะเปลี่ยนเข้าสู่โครงการใหม่ในปี 2561-2670 คือ โครงการผลิตเเพทย์เเห่งประเทศไทย ซึ่งมี โครงการย่อย 2 โครงการ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ โครงการร่วมผลิตเเพทย์ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขเเละกระทรวงศึกษาธิการ
สำนักงาน สบพช มีบุคลากรทั้งสิ้น 31 คน ข้าราชการ 7 อัตรา เป็นการยืมตัวปฏิบัติราชการทั้งสิ้น ไม่มีตำเเหน่งอยู่ที่องค์กรตัวเอง หน้าที่หลักของ สบพช คือ ประสานงานกับศูนย์แพทยศาสตรศึกษาชั้นคลินิกของโรงพยาบาล 37 แห่ง และคณะแพทย์คู่ความร่วมมือ 15 คณะ ครอบคลุม 12 เขตสุขภาพทั่วประเทศ
ขอบเขตการประสานงาน ด้านต่างๆของ สบพช คือ
ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักศึกษา 16 รุ่นพบว่า จบการศึกษา ร้อยละ 99.6 สอบผ่าน national license ทั้ง 3 ตอนของแพทยสภา ร้อยละ 99.4 และได้รับเกียรตินิยม ร้อยละ 8.5 ในการบรรจุเเพทย์ใหม่ของ กสธ ในปี 2559 สบพช สามารถจัดสรรบัณฑิตจากโครงการเข้าประจำการในกสธ ได้ 1,046 คน คิดเป็นร้อยละ 49.3 ของแพทย์ใหม่ทั้งหมดใน กสธ
การพัฒนานักศึกษาที่ผ่านมาสบพช พยายามประสานศูนย์เเพทย์ต่างๆให้ดำเนินการ ตามเเนวทาง CPIRD DNA คือ
จากผลการติดตามบัณฑิตพบว่า ร้อยละ 81.5 ยังคงปฏิบัติงานอยู่ในกสธ โดย ร้อยละ 96.0 ปฏิบัติงานอยู่ในเขตสุขภาพที่เป็นภูมิลำเนา และร้อยละ 77.9 ปฏิบัติงานอยู่ใน รพช ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจของผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายที่ได้สนับสนุนโครงการ CPIRD มาโดยตลอด
สบพช ได้พยายามเสนอการพัฒนาให้เป็นหน่วยงานหลักในกระทรวงสาธารณสุขหลายครั้ง เเต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เเม้ผู้ใหญ่ในกระทรวงหลายท่านจะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ โดยหน่วยงานใหม่นี้จะไม่เพิ่มจำนวนบุคลากร เเต่สามารถมีการกำหนดตำเเหน่งให้ข้าราชการเเละพนักงานราชการ บรรจุอยู่ในองค์กรตามที่ปฏิบัติงานจริงได้ ซึ่งจะทำให้เป็นองค์กรมืออาชีพ ในการดำเนินการร่วมผลิตเเพทย์ทั้ง undergraduate เเละ postgraduate เป็นงานหลัก ไม่ได้เป็นเพียงสำนักงานบริหารโครงการไปทีละ 5-10 ปี เช่นปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจได้ว่า การผลิตบุคลากรทางสุขภาพเเบบคู่ความร่วมมือนี้สามารถเป็นไปได้ การเเก้ปัญหาด้านจำนวนความขาดเเคลนไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพราะ สาขาเเพทย์ได้ทำให้เห็นเเล้วว่า ทำได้สำเร็จ เเม้จะยังมีความขาดเเคลนที่จะต้องเติมเต็มต่อไป
ความท้าทายในอนาคตคงจะอยู่ที่การกระจายให้ดี เเละการสร้างความผูกพันให้กับเเพทย์ไม่ว่าที่จะจบใหม่หรือประจำการเเล้วให้ผูกพันกับองค์กร ชุมชนเเละประชาชน จะได้อยู่ปฏิบัติงานดูเเลคนไข้ในภูมิลำเนาตนเองได้นานๆ สอดคล้องกับนโยบายเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้ระบบบริการปฐมภูมิ หรือ Primary Care Cluster ในปัจจุบัน
ดังนั้นเมื่อได้ทบทวนอดีตอันยาวนานกับตัวละครที่ชื่อ สบพช ในวงการเเพทยศาสตรศึกษาไทยเเล้ว ต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน ทั้งในส่วนกระทรวงสาธารณสุขเเละทางฝั่งมหาวิทยาลัยที่ร่วมมือกัน "รุ่นต่อรุ่น" ในการช่วยกันทำให้โครงการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเเพทย์ของไทยพัฒนาขึ้นมาได้โดยลำดับ
ก็คงเหมือนบริษัทห้างร้านที่ถือโอกาสช่วงเปลี่ยนปีในการทบทวนองค์กรตัวเอง เเละหากลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรให้ดีขึ้นในปีต่อไป
ในต้นปี 2560 นี้ จึงขออนุญาตเเบ่งปันข้อมูล บทบาทเเละผลงานคร่าวๆของสำนักงานบริหารโครงการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท (สบพช) ในช่วง 22 ปี ที่ผ่านมา เพื่อให้ได้เกิดการเเลกเปลี่ยนเรียนรู้ เเละข้อเเนะนำในการพัฒนาสบพช ต่อไปในอนาคต ในฐานะสบพชเป็นเเฟนพันธุ์เเท้ เเนวร่วมการลดความเหลือ่มลำ้ ทางการศึกษา เเละการบริการทางการเเพทย์ของประเทศไทย
สบพช ถูกจัดตั้งขึ้นตามมติครม. เมื่อปีพศ. 2537 เนื่องจากได้มีความร่วมมือในการร่วมผลิตแพทย์เพิ่มเพื่อชาวชนบท หรือโครงการ CPIRD ระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข จึงจำเป็นจะต้องมีหน่วยงานกลางที่ทำหน้าที่ประสานงานด้านต่างๆ รวมทั้งบริหารจัดการงบประมาณที่จะต้องส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง 2 กระทรวง
โครงการ CPIRD เริ่มรับนักศึกษารุ่นแรกในปีการศึกษา 2538 จำนวน 8 คน โดยคู่ความร่วมมือแรกคือ รพศ. ขอนแก่นและมหาวิทยาลัยขอนแก่น ปัจจุบันมีบัณฑิตที่จบในนามโครงการความร่วมมือนี้ทั้งสิ้น 16 รุ่น รวม 6,955 คน โดยมีแผนการรับนักศึกษาในปี 2560 อีกจำนวน 1,131 คน คิดเป็นร้อยละ 36.2 ของการรับนักศึกษาแพทย์ทั้งประเทศ ก่อนที่จะเปลี่ยนเข้าสู่โครงการใหม่ในปี 2561-2670 คือ โครงการผลิตเเพทย์เเห่งประเทศไทย ซึ่งมี โครงการย่อย 2 โครงการ ซึ่ง 1 ในนั้นคือ โครงการร่วมผลิตเเพทย์ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขเเละกระทรวงศึกษาธิการ
ขอบเขตการประสานงาน ด้านต่างๆของ สบพช คือ
- การจัดสรรโควตาการรับนักศึกษาตามเขตพื้นที่ภูมิลำเนา
- การเตรียมนักเรียนมัธยมปลายที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา
- การโอนและติดตามการใช้งบประมาณ
- การจัดสรรบัณฑิตเข้าสู่เขตสุขภาพ
- การติดตามบัณฑิตโครงการ
- พัฒนากระบวนการคัดเลือกนักศึกษา
- พัฒนาการเรียนการสอนและหลักสูตรให้ตรงตามความต้องการของกสธ
- พัฒนาอาจารย์แพทย์ทั้งในและต่างประเทศ
- พัฒนางานวิจัยทั้งด้านแพทยศาสตรศึกษาและงานวิจัยคลินิก
- พัฒนาระบบฐานข้อมูล เพื่อสนับสนุนการบริหารงานและการวิจัย
- พัฒนาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา
- พัฒนาระบบเเพทย์พี่เลี้ยงโครงการ
- พัฒนาศูนย์แพทย์ให้เป็นสถาบันฝึกอบรมแพทย์หลังปริญญาสาขาต่างๆ
- พัฒนาความร่วมมือด้านต่างๆกับสถาบันทั้งในและต่างประเทศ
ผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของนักศึกษา 16 รุ่นพบว่า จบการศึกษา ร้อยละ 99.6 สอบผ่าน national license ทั้ง 3 ตอนของแพทยสภา ร้อยละ 99.4 และได้รับเกียรตินิยม ร้อยละ 8.5 ในการบรรจุเเพทย์ใหม่ของ กสธ ในปี 2559 สบพช สามารถจัดสรรบัณฑิตจากโครงการเข้าประจำการในกสธ ได้ 1,046 คน คิดเป็นร้อยละ 49.3 ของแพทย์ใหม่ทั้งหมดใน กสธ
การพัฒนานักศึกษาที่ผ่านมาสบพช พยายามประสานศูนย์เเพทย์ต่างๆให้ดำเนินการ ตามเเนวทาง CPIRD DNA คือ
- C Community bonded การผูกพันกับชุมชน เเละบ้านเกิด
- P Passion to learn and work better มีความฝักใฝ่ที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
- I Integrity ความซื่อสัตย์ เชื่อถือได้
- R Responsibility ความรับผิดชอบต่อการทำงานในภูมิลำเนา เเละรับผิดชอบพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศ
- D Dignity ความภาคภูมิใจในการเป็นเเพทย์ของเเผ่นดิน เจริญรอยตามพระบาทสมเด็จพระบรมราชชนก
จากผลการติดตามบัณฑิตพบว่า ร้อยละ 81.5 ยังคงปฏิบัติงานอยู่ในกสธ โดย ร้อยละ 96.0 ปฏิบัติงานอยู่ในเขตสุขภาพที่เป็นภูมิลำเนา และร้อยละ 77.9 ปฏิบัติงานอยู่ใน รพช ซึ่งเป็นที่น่าภูมิใจของผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่ายที่ได้สนับสนุนโครงการ CPIRD มาโดยตลอด
สบพช ได้พยายามเสนอการพัฒนาให้เป็นหน่วยงานหลักในกระทรวงสาธารณสุขหลายครั้ง เเต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ เเม้ผู้ใหญ่ในกระทรวงหลายท่านจะพยายามผลักดันอย่างเต็มที่ โดยหน่วยงานใหม่นี้จะไม่เพิ่มจำนวนบุคลากร เเต่สามารถมีการกำหนดตำเเหน่งให้ข้าราชการเเละพนักงานราชการ บรรจุอยู่ในองค์กรตามที่ปฏิบัติงานจริงได้ ซึ่งจะทำให้เป็นองค์กรมืออาชีพ ในการดำเนินการร่วมผลิตเเพทย์ทั้ง undergraduate เเละ postgraduate เป็นงานหลัก ไม่ได้เป็นเพียงสำนักงานบริหารโครงการไปทีละ 5-10 ปี เช่นปัจจุบัน
อย่างไรก็ตามความสำเร็จที่ผ่านมา ทำให้มั่นใจได้ว่า การผลิตบุคลากรทางสุขภาพเเบบคู่ความร่วมมือนี้สามารถเป็นไปได้ การเเก้ปัญหาด้านจำนวนความขาดเเคลนไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพราะ สาขาเเพทย์ได้ทำให้เห็นเเล้วว่า ทำได้สำเร็จ เเม้จะยังมีความขาดเเคลนที่จะต้องเติมเต็มต่อไป
ความท้าทายในอนาคตคงจะอยู่ที่การกระจายให้ดี เเละการสร้างความผูกพันให้กับเเพทย์ไม่ว่าที่จะจบใหม่หรือประจำการเเล้วให้ผูกพันกับองค์กร ชุมชนเเละประชาชน จะได้อยู่ปฏิบัติงานดูเเลคนไข้ในภูมิลำเนาตนเองได้นานๆ สอดคล้องกับนโยบายเสริมสร้างความเเข็งเเกร่งให้ระบบบริการปฐมภูมิ หรือ Primary Care Cluster ในปัจจุบัน
ดังนั้นเมื่อได้ทบทวนอดีตอันยาวนานกับตัวละครที่ชื่อ สบพช ในวงการเเพทยศาสตรศึกษาไทยเเล้ว ต้องขอขอบพระคุณทุกท่าน ทั้งในส่วนกระทรวงสาธารณสุขเเละทางฝั่งมหาวิทยาลัยที่ร่วมมือกัน "รุ่นต่อรุ่น" ในการช่วยกันทำให้โครงการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเเพทย์ของไทยพัฒนาขึ้นมาได้โดยลำดับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น